...ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม ได้เมตตานำปฏิภาวนา-แสดงธรรม ณ วัดปทุมวนาราม ตามคำกราบนิมนต์ของคุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดีและคณะ เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๕

“ระหว่างฉันท์กาแฟและสนทนาธรรมยามเช้า”
คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย ได้นำ
หนังสือ “ขันธะวิมุติ สะมังคีธรรมะ”
ซึ่งมีลายมือที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
เขียนบันทึก ถวายพระอาจารย์

คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย
ประธานมูลนิธิธรรมดี

พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล
ผู้บังคับการอำนวยการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ

คุณอาทิตย์ ชีวณิชชากร
Interior Design
The hardware revival

คุณดนัย…เป็นตัวแทนน้อมถวายอาหารแด่พระอาจารย์
ช่วยกันลำเลียงอาหาร

คุณจิรา เฉลียวเกรียงไกร
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานใหญ่

คุณภาคภูมิ รชตะธราดล
นักลงทุนอิสระ

พระอาจารย์อนุโมทนาให้พร
อายุวัฑฒะโก , ความจริญอายุ
ธะนะวัฑฒะโก , ความเจริญทรัพย์
สิริวัฑฒะโก , ความเจริญสิริ
ยะสะวัฑฒะโก , ความเจริญยศ
พะละวัฑฒะโก , ความเจริญกำลัง
วัณณะวัฑฒะโก , ความเจริญวรรณะ
สุขะวัฑฒะโก , ความเจริญสุข
โหตุ สัพพะทา , จงมีแด่ท่านในกาลทั้งปวง
ทุกขะโรคะภะยา เวรา , ทุกข์โรคภัยและเวรทั้งปวง
โสกา สัตตุ จุปัททะวา , ความโศก ศัตรูและอุปัทวะทั้งหลาย
อะเนกา อันตะรายาปิ , ทั้งอันตรายทั้งหลายเป็นเอนก
วินัสสันตุ จะ เตชะสา , จงพินาศไปด้วยเดช
ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภัง , ความชนะ ความสำเร็จ ทรัพย์ ลาภ
โสตถิ ภาคะยัง สุขัง พะลัง , ความสวัสดี ความมีโชค ความสุข กำลัง
สิริ อายุ จะ วัณโณ จะ โภคัง วุฑฒี จะ ยะสะวา , โภคะ ความเจริญ และความเป็นผู้มียศ
สะตะวัสสา จะ อายู จะ , และอายุยืน 100 ปี
ชีวะสิทธี ภะวันตุ เต ฯ ,และความสำเร็จกิจในความเป็นอยู่ จงมีแก่ท่านในกาลทุกเมื่อเทอญ.
พระครูมงคลกิตติธาดา (พระอาจารย์ปัญญา)
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม
เมตตาให้การต้อนรับและสนทนากับพระอาจารย์
หลังจากนั้นท่านพระอาจารย์นำเจริญสมาธิภาวนา

คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย
ประธานมูลนิธิธรรมดี

“แผ่เมตตาหลังจากนั่งภาวนาเสร็จ”
สาธุ…บุญกุศลใดหากเกิดขึ้นแล้วมีขึ้นแล้วแก่ข้าพเจ้านี้ ก็ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่ในวัฏสงสารนี้ทุกผู้ทุกคน ทุกรูปทุกนาม ทุกตัวทุกตน…ขอจงเป็นผู้มีส่วนแห่งบุญนี้ด้วย…หากตกทุกข์ก็ขอให้พ้นจากทุกข์ ถ้าถึงสุขแล้วก็ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป …สาธุ

“ฟังธรรม – สนทนาธรรม”
ท่านพระอาจารย์เมตตาสนทนาธรรมกับญาติโยมด้วยความเป็นกันเอง

“ ภพ ”

“…จุด ๆเดียวโดยลำพังมันก็จะไม่มีความหมายอะไรมากมาย..สำหรับคนธรรมดาสามัญโดยทั่ว ๆไปอย่างเรา ๆท่าน ๆทั้งหลาย…แต่สำหรับท่านผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว..ท่านรู้ดีว่านี่คือจุดเริ่มต้นของความหมายของ “สมมติ” ….ยกตัวอย่างเช่น…ถ้ามีเส้นรังสีออกไปจากจุดนี้หนึ่งเส้น..ก็เรียก “เส้นตรง” แล้ว…ถ้าออกจากจุด ๆเดียวสองเส้น..ก็เรียก “มุม” แล้ว…แล้วถ้ายิ่งหลาย ๆ เส้น..ก็จะเป็นหลายมุมแล้ว..ยิ่งหลายมุมยิ่งหลายความหมาย ยิ่งหลากหลายความวุ่นวาย…ทั้งมุมแหลม มุมป้าน มุมฉาก มุมประชิด..อิรุงตุงนังวุ่นวายไปหมด…

ในแง่ของศาสนา..เปรียบจุดนั้นคือ “ภพ” (ที่เกาะเกี่ยวของ “จิต” ซึ่งหมายถึงธาตุรู้) ตราบที่ยัง “หลง” อยู่…เส้นรังสีหลายเส้นที่แผ่ออกไปจากจุดนี้ ในวิชาเรขาคณิตคือ “มุม”…ในความเห็นส่วนตัวของเราก็คือ “มุมมอง” หรือความเห็นของแต่ละคนนั่นแหละ ภาษาธรรมก็คือ “สักกายทิฏฐิ”…ต่างคนต่างมีความเห็นมุมมองของตัวเองเป็นจริงเป็นจัง มันก็เลยทำให้เราวุ่นวายอยู่กับโลกสมมติที่ซับซ้อนวุ่นวายนี้ ตามกำลังความหลงของแต่ละคน…หลงมากก็ทุกข์มาก หลงน้อยก็ทุกข์น้อย ถ้าไม่หลงเลยก็เป็น ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน..ตามพระพุทธเจ้าผู้เป็นพระศาสดาผู้นำล่องไปแล้ว…และก็พยามบอกสอนกรรมวิธีที่จะเข้าไปสู่สภาวะนี้ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์หลังจากตรัสรู้แล้ว ด้วยพระเมตตา พระกรุณา..ไม่ได้รับจ้างพูด…อย่างที่พวกเราพยายามทำกันอยู่นี้แหละ กรรมวิธีที่จะเข้าไปสู่สภาวะพ้นทุกข์นั้น…หายใจเข้า พุท….หายใจออกโธ…พุท…โธ…ๆๆๆๆ…หรือจะบริกรรม พุทโธ ๆ ๆ ๆ..แต่เพียงอย่างเดียวโดยไม่ยุ่งกับลมหายใจเข้าออกก็ได้…นี่คือกรรมวิธี “ลบเส้นรังสี” หรือ “ลบแขนของมุม” นั่นแหละ…ลบไปเรื่อย ๆ ด้วยความอดทนอดกลั้นที่จะฝ่าฟันกับอุปสรรคต่าง ๆ จากมุมมองความหลงของตัวเอง..ทั้ง..ฟุ้งซ่าน ง่วงเหงาหาวนอน ทั้งลังเลสงสัย ทั้งเป็นเหน็บเจ็บปวด ฯลฯ…สารพัดทุกข์ที่จะรุมเร้า..ถ้ายังไม่ท้อไม่ถอยสักวันหนึ่งเมื่อเราสามารถลบเส้นรังสีหรือแขนของมุม “มุมมอง” ที่หลงของตัวเองนั่นแหละ..ซึ่งลบหมดเมื่อไหร่มันก็จะเหลือเพียงจุด ๆเดียวคือ “จุดยอดมุม”…มันก็จะไม่มีความหมายอะไรในขณะนั้น..ในศาสนาก็คือ “เอกคตารมณ์ เอกคตาจิต” คือจิตเดียว อารมณ์เดียว..ไม่มีอดีต..ไม่มีอนาคต..มีแต่ “รู้” อยู่หนึ่งเดียว…พยายามสร้างปัญญาหาทางฟันฝ่าไปให้ถึง “จุด” นี้ให้ได้ก่อนเถอะ…แล้วค่อยบ่มเพาะปัญญาที่จะลบ “จุดยอดมุม” นี้ซะ..ความเป็นอิสระที่แท้จริงจึงจะบังเกิด….เอวัง !…..”

โดย ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม

คุณสโร
เจ้าของกิจการ SARO Royal Lotus Tea

น้อมถวายทำบุญกับท่านพระอาจารย์

พระอาจารย์อนุโมทนาบุญให้พรญาติโยม

สัพพะ พุทธานุภาเวนะ ,
ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
สัพพะ ธัมมานุภาเวนะ ,
ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมทั้งปวง
สัพพะ สังฆานุภาเวนะ ,
ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ทั้งหลาย
สะทาโสตถี ภะวันตุเต ,
ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ท่านทุกเมื่อเทอญ.

สาธุ…ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะคะ

คุณดนัย ได้กราบนิมนต์พระอาจารย์

“เดินชมบริเวณวัดปทุมวนาราม”

“กุฏิหลวงปู่มั่น” (จำลอง)
ขณะจำพรรษาที่วัดปทุมวนาราม
“หินที่ประทับของ
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ”
“สวนป่าพระราชศรัทธา”
บรรยากาศร่มรื่มเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่
“ถ้าไม่มีป่า จะไม่มา”
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ ๙)
มีรับสั่งดังกล่าว…จึงทำให้เกิดสวนป่ากลางเมือง

ภายในวัดปทุมวนารามขึ้น

ขอโอกาสถ่ายรูปหน้าศาลา
กับพระอาจารย์เป็นที่ระลึก
ขอน้อมกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์
ขอโอกาสถ่ายรูปกับพระอาจารย์เป็นที่ระลึก

ขออนุโมทนาบุญในกุศลจิตกับทุก ๆ ท่าน ด้วยค่ะ…
ขอให้ท่านเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะคะ สาธุ…สาธุ…สาธุ