วัดป่าน้ำโจนเป็นสถานที่สัปปายะ คือ มีความเหมาะสมในการปฏิบัติธรรม – เจริญสมาธิภาวนา บริเวณวัดเป็นป่าร่มรื่นและสงบ มีคนเข้า – ออกน้อยมากเสนาสนะที่นี่มีแต่พอเพียง และจัดให้กลมกลืนกับธรรมชาติ กุฏิแต่ละกุฏิจะแยกกันอยู่ห่างกันพอสมควร มีความสงัดวิเวกเป็นส่วนตัว เหมาะแก่การบำเพ็ญเพียรเจริญสมาธิ กุฏินี้สร้างด้วยหลังคามุงแป้นเกล็ดมีความกว้างประมาณ 2 x 2 . 5 เมตร ผนังทั้ง 4 ด้านใช้มุ้งลวดเพื่อป้องกันยุง สัตว์ต่าง ๆที่จะมารบกวน และมีทางเดินจงกรมที่เป็นส่วนตัวทุกกุฏิเพื่อช่วยเอื้อแก่การเดินจงกรมของผู้ปฏิบัติธรรม

วัดป่าน้ำโจนเป็นวัดที่มีเสนาสนะตามสมควรมีแต่พอเพียงและมีความกลมกลืนกับธรรมชาติซึ่งเป็นไปตามความประสงค์ของพระอาจารย์อังคาร……ที่ ต้องการเน้นการพัฒนาจิตใจของคนมากกว่าการสร้างถาวรวัตถุซึ่งการที่วัดมีอาคารสิ่งก่อสร้างน้อย…ก็เนื่องจากเรามีคนน้อยจึงไม่มีความจำเป็นที่จะเพิ่ม ภาระให้ตัวเองในการดูแลรักษาด้วยการสร้างสิ่งก่อสร้างที่เกินจำเป็น…เพราะมุมมองในการดำรงชีวิตที่ท่านสอนอยู่เป็นประจำก็คือ…“นกน้อยทำรังแต่พอตัว”…

บริเวณรอบศาลา

บรรยากาศยามหนาว

กุฏิ …ที่พัก สำหรับหลบแดด หลบฝน เพื่อเอื้อต่อการทำความพากความเพียร…(ในอดีต) ที่หรูที่สุดค่ะ

ทางจงกรม…สำหรับผู้ที่ห้าวหาญกับกิเลสของตัวเอง

กุฏิพร้อมทางจงกรม

บรรยากาศบริเวณกุฏิที่พัก สำหรับผู้มาพักปฏิบัติธรรม(ในช่วงต่อมา)…ยามพลบค่ำ

กุฏิในยุคปัจจุบัน

ภายใต้แมกไม้ที่ร่มเย็น

ห้องน้ำสำหรับผู้มาพักปฏิบัติธรรม

นี่คือ “เรือนตาขาว”…สำหรับคนที่ขี้กลัวอยู่กันเป็นคณะ (คนที่ไม่ขี้กลัวก็อยู่ได้ค่ะ)…ฮิ ฮิ ฮิ!!!

ร่วมกันใส่บาตร…ในบริเวณวัดช่วงเทศกาลวันสำคัญทางศาสนา

บรรยากาศในการทำบุญของพุทธศาสนิกชน ที่วัดป่าน้ำโจน

บรรยากาศภายในบริเวณวัด

สวดมนต์ทำวัตรเย็น

นั่งภาวนา

ฟังธรรมจากท่านพระอาจารย์

มุมสงบ…ของคุณยายนันทนา นาคอินทร์

เส้นทางแห่งผู้ห้าวหาญ…คุณยายนันทนา นาคอินทร์ เดินจงกรมตอนใกล้พลบค่ำ

…ถ้าเรารักป่า..ป่าย่อมจะรักเรา..แล้วในเมื่อป่ารักเรา.. นี่ไงคะรางวัลจากป่า..”เห็ดโคน”ค่ะ…

ถ้าไม่มีต้นไม้…แล้วจะให้พวกเขาไปอยู่ที่ไหน…ผึ้งค่ะ

Hello!!!…สวัสดีครับ…ผม “แย้” ครับ… “แย้”

สัตว์โลกผู้น่ารัก สุนัขจิ้งจอกค่ะ

(ยามกลางคืนในบางครั้งก็จะมีสัตว์ป่าที่น่ารัก ๆ แบบนี้มาให้เห็นเป็นประจำ)

…แต่ไม่ต้องกลัวนะคะเขาไม่ทำอันตรายอะไรหรอกค่ะ…