ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม วัดป่าน้ำโจน จังหวัดพิษณุโลกได้เมตตานำปฏิบัติธรรม – แสดงธรรม ณ ระเบียงรมณีย์ ตึกภูมิสิริมังคลานุสรณ์ ชั้น 14 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อ วันที่ 17 มิถุนายน 2565…ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ ขอให้ท่านเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะคะ

เวลาประมาณ 18.00 น.
ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม
นำญาติโยมสวดมนต์ทำวัตรเย็น เพื่อบูชาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ศ.นพ.สมรัตน์ จารุลักษณานันท์
หัวหน้าภาควิชาวิสัญญีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผศ.ดร.นพ. ปรก เหล่าสุวรรณ์
ภาควิสัญญีวิทยา รพ.จุฬาลงกรณ์

คุณอาทิตย์ ชีวณิชชากร
Interior Design
The hardware revival

คุณภาคภูมิ รชตะธราดล
นักลงทุนอิสระ

นพ.สมชาติ สุนทราภิรมย์
สูตินรีแพทย์และแพทย์ด้านมะเร็งนรีเวชวิทยา รพ.บำรุงราษฎร์

รตท.หญิง ทัศนีย์ สุนทราภิรมย์
ภรรยาผู้ใฝ่ธรรม
ของ นพ.สมชาติ

คณะพนักงานคดีปกครองปฏิบัติการ
สำนักประธานศาลปกครองสูงสุด

หลังจากสวดมนต์ทำวัตรเย็นเสร็จ
ท่านพระอาจารย์นำเจริญสมาธิภาวนา

ผศ.ระวีวรรณ แก้ววิทย์
อาจารย์คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและบริหารกิจการ
ม.กรุงเทพ
และ เจ้าของธุรกิจแบรนด์ MeMie

คุณอภิชาติ กาญจนะสันติสุข
วิศวกรไฟฟ้า 7
ฝ่ายควบคุมไฟฟ้า
การไฟฟ้านครหลวง

คุณธัญญ์พิชชา วงศ์ประเสริฐกุล
เจ้าของบริษัทโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์

คุณริญญาภัสร์ รุ่งสิริวัฒนะวุฒิ
ธุรกิจส่วนตัว

“แผ่เมตตาหลังจากนั่งภาวนาเสร็จ”
สาธุ…บุญกุศลใดหากเกิดขึ้นแล้วมีขึ้นแล้วแก่ข้าพเจ้านี้ ก็ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่ในวัฏสงสารนี้ทุกผู้ทุกคน ทุกรูปทุกนาม ทุกตัวทุกตน…ขอจงเป็นผู้มีส่วนแห่งบุญนี้ด้วย…หากตกทุกข์ก็ขอให้พ้นจากทุกข์ ถ้าถึงสุขแล้วก็ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป …สาธุ

ฟังธรรม – สนทนาธรรม
กับ…ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม

นพ.จักรกรินทร์ รัชวิจักขณ์ (ซ้ายมือ)
ผู้อำนวยการ รพ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท

พระอาจารย์เมตตาสนทนาธรรม
ด้วยความเป็นกันเอง

“ ภพ ”

“…จุด ๆเดียวโดยลำพังมันก็จะไม่มีความหมายอะไรมากมาย..สำหรับคนธรรมดาสามัญโดยทั่ว ๆไปอย่างเรา ๆท่าน ๆทั้งหลาย…แต่สำหรับท่านผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว..ท่านรู้ดีว่านี่คือจุดเริ่มต้นของความหมายของ “สมมติ” ….ยกตัวอย่างเช่น…ถ้ามีเส้นรังสีออกไปจากจุดนี้หนึ่งเส้น..ก็เรียก “เส้นตรง” แล้ว…ถ้าออกจากจุด ๆเดียวสองเส้น..ก็เรียก “มุม” แล้ว…แล้วถ้ายิ่งหลาย ๆ เส้น..ก็จะเป็นหลายมุมแล้ว..ยิ่งหลายมุมยิ่งหลายความหมาย ยิ่งหลากหลายความวุ่นวาย…ทั้งมุมแหลม มุมป้าน มุมฉาก มุมประชิด..อิรุงตุงนังวุ่นวายไปหมด…

ในแง่ของศาสนา..เปรียบจุดนั้นคือ “ภพ” (ที่เกาะเกี่ยวของ “จิต” ซึ่งหมายถึงธาตุรู้) ตราบที่ยัง “หลง” อยู่…เส้นรังสีหลายเส้นที่แผ่ออกไปจากจุดนี้ ในวิชาเรขาคณิตคือ “มุม”…ในความเห็นส่วนตัวของเราก็คือ “มุมมอง” หรือความเห็นของแต่ละคนนั่นแหละ ภาษาธรรมก็คือ “สักกายทิฏฐิ”…ต่างคนต่างมีความเห็นมุมมองของตัวเองเป็นจริงเป็นจัง มันก็เลยทำให้เราวุ่นวายอยู่กับโลกสมมติที่ซับซ้อนวุ่นวายนี้ ตามกำลังความหลงของแต่ละคน…หลงมากก็ทุกข์มาก หลงน้อยก็ทุกข์น้อย ถ้าไม่หลงเลยก็เป็น ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน..ตามพระพุทธเจ้าผู้เป็นพระศาสดาผู้นำล่องไปแล้ว…และก็พยามบอกสอนกรรมวิธีที่จะเข้าไปสู่สภาวะนี้ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์หลังจากตรัสรู้แล้ว ด้วยพระเมตตา พระกรุณา..ไม่ได้รับจ้างพูด…อย่างที่พวกเราพยายามทำกันอยู่นี้แหละ กรรมวิธีที่จะเข้าไปสู่สภาวะพ้นทุกข์นั้น…หายใจเข้า พุท….หายใจออกโธ…พุท…โธ…ๆๆๆๆ…หรือจะบริกรรม พุทโธ ๆ ๆ ๆ..แต่เพียงอย่างเดียวโดยไม่ยุ่งกับลมหายใจเข้าออกก็ได้…นี่คือกรรมวิธี “ลบเส้นรังสี” หรือ “ลบแขนของมุม” นั่นแหละ…ลบไปเรื่อย ๆ ด้วยความอดทนอดกลั้นที่จะฝ่าฟันกับอุปสรรคต่าง ๆ จากมุมมองความหลงของตัวเอง..ทั้ง..ฟุ้งซ่าน ง่วงเหงาหาวนอน ทั้งลังเลสงสัย ทั้งเป็นเหน็บเจ็บปวด ฯลฯ…สารพัดทุกข์ที่จะรุมเร้า..ถ้ายังไม่ท้อไม่ถอยสักวันหนึ่งเมื่อเราสามารถลบเส้นรังสีหรือแขนของมุม “มุมมอง” ที่หลงของตัวเองนั่นแหละ..ซึ่งลบหมดเมื่อไหร่มันก็จะเหลือเพียงจุด ๆเดียวคือ “จุดยอดมุม”…มันก็จะไม่มีความหมายอะไรในขณะนั้น..ในศาสนาก็คือ “เอกคตารมณ์ เอกคตาจิต” คือจิตเดียว อารมณ์เดียว..ไม่มีอดีต..ไม่มีอนาคต..มีแต่ “รู้” อยู่หนึ่งเดียว…พยายามสร้างปัญญาหาทางฟันฝ่าไปให้ถึง “จุด” นี้ให้ได้ก่อนเถอะ…แล้วค่อยบ่มเพาะปัญญาที่จะลบ “จุดยอดมุม” นี้ซะ..ความเป็นอิสระที่แท้จริงจึงจะบังเกิด….เอวัง !…..”

โดย ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม
ณ ระเบียงรมณีย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
เมื่อ วันที่ 17 มิถุนายน 2565

น้อมถวายทำบุญกับท่านพระอาจารย์

ความเมตตาของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่มีต่อลูกศิษย์

ท่านพระอาจารย์อนุโมทนาให้พรแก่ญาติโยม

อายุวัฑฒะโก , ความจริญอายุ
ธะนะวัฑฒะโก , ความเจริญทรัพย์
สิริวัฑฒะโก , ความเจริญสิริ
ยะสะวัฑฒะโก , ความเจริญยศ
พะละวัฑฒะโก , ความเจริญกำลัง
วัณณะวัฑฒะโก , ความเจริญวรรณะ
สุขะวัฑฒะโก , ความเจริญสุข
โหตุ สัพพะทา , จงมีแด่ท่านในกาลทั้งปวง
ทุกขะโรคะภะยา เวรา , ทุกข์โรคภัยและเวรทั้งปวง
โสกา สัตตุ จุปัททะวา , ความโศก ศัตรูและอุปัทวะทั้งหลาย
อะเนกา อันตะรายาปิ , ทั้งอันตรายทั้งหลายเป็นเอนก
วินัสสันตุ จะ เตชะสา , จงพินาศไปด้วยเดช
ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภัง , ความชนะ ความสำเร็จ ทรัพย์ ลาภ
โสตถิ ภาคะยัง สุขัง พะลัง , ความสวัสดี ความมีโชค ความสุข กำลัง
สิริ อายุ จะ วัณโณ จะ โภคัง วุฑฒี จะ ยะสะวา , โภคะ ความเจริญ และความเป็นผู้มียศ
สะตะวัสสา จะ อายู จะ , และอายุยืน 100 ปี
ชีวะสิทธี ภะวันตุ เต ฯ ,และความสำเร็จกิจในความเป็นอยู่ จงมีแก่ท่านในกาลทุกเมื่อเทอญ.

ขออนุโมทนาบุญในกุศลจิตกับทุก ๆ ท่าน ด้วยค่ะ…
ขอให้ท่านเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะคะ สาธุ…สาธุ…สาธุ