ข้อมูลส่วนตัว

อายุ 27 ปี การศึกษา : ปริญญาตรี วศ.บ.วิศวกรรมเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
อาชีพ : ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง

คุณนับว่าเป็นคนรุ่นใหม่คือ อายุยังน้อย มีความรู้ความสามารถมีการศึกษาตลอดจนหน้าที่การงานดี…แล้วคุณคิดอย่างไร ถึงได้มาปฏิบัติธรรมอยู่ในวัดที่อยู่ป่าอยู่ดง โดยปราศจากเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ แม้กระทั่งไฟฟ้าอย่างนี้ ?

“…หนึ่งคิดว่าเครื่องอำนวยความสะดวกต่างมีประโยชน์ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้นก็จริงแต่บางครั้งถ้าเรายึดติดลุ่มหลงมัน คือ มีความต้องการมันมากและมากขึ้นเรื่อย ๆ มันคือความทุกข์ จะเกิดการพะวักพะวง แต่ถ้าเราตัดสิ่งเหล่านี้ไป ไปอยู่ในที่ที่ไม่มีสิ่งเหล่านี้ เราจะรู้สึกสงบนิ่งเหมือนกับอยู่กับจิตตัวเอง เข้าใจตัวเอง จิตใจเราก็จะสบายไม่เหนื่อย ไม่ต้องการอะไรมาก ไม่พะวักพะวง ซึ่งน่าจะเป็นความสุขที่แท้จริงค่ะ การที่ได้มาอยู่วัดป่าที่ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก เหมือนกับเราได้อยู่อีกโลกหนึ่ง ทำให้เราไม่หลงลืมตน เป็นการพักผ่อนกายและใจที่ดีที่สุดค่ะ…”

เข้าวัดปฏิบัติธรรมอย่างนี้ไม่กลัวคนเขาว่า “ล้าหลังคร่ำครึ ตกกระแส หรือว่าเป็นคนมีปัญหา” หรือ ?

“…หนึ่งไม่เคยคิดว่าการเข้าวัดทำให้เราดูคร่ำครึ ตกกระแสเลย เพราะเราพอใจในสิ่งที่เราทำนั้นเป็นสิ่งที่มีความสุข และเราทำแล้วดี คนที่อยู่รอบข้างก็รู้สึกดีกับเราและพลอยยินดีกับการเปลี่ยนแปลงของเรา เราก็แนะนำพวกเขาให้เข้าใจ เขาเข้าใจ เขาก็ดีขึ้นด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุและผลพิสูจน์กันได้ เพราะฉะนั้นเป็นหนทางที่ถูกต้องแล้วค่ะ…”

แล้วคุณคิดว่าคุณได้อะไรบ้างกับการมาปฏิบัติธรรมอย่างนี้น่ะ?

“…หนึ่งได้ประโยชน์กับการปฏิบัติธรรมเรื่อยมา แต่ก็ขึ้นอยู่กับเราปฏิบัติมากหรือน้อย ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย อย่างแรกที่เราได้คือเราเข้าใจตัวเอง ซึ่งก็คือเราเข้าใจว่าเราเป็นทุกข์หรือเป็นสุข ถ้าทุกข์เราดูว่าทุกข์เกิดจากอะไร มันเป็นยังไงสภาพเป็นอย่างไร เราก็รู้ว่าจะแก้ทุกข์นั้นได้บ้างในเบื้องต้น แต่จะแก้ได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความเพียรในการปฏิบัติ ซึ่งหนึ่งก็ยังไม่ได้มากสักเท่าไรนัก และเราก็นำเอาวิธีการนี้มาใช้กับการงาน ครอบครัวและเรื่องส่วนตัว ทำให้แก้ปัญหาเราได้ดีและถูกต้อง หนึ่งจึงปฏิบัติเสมอมาค่ะ…”