ข้อมูลส่วนตัว

ฉายาตอนบวชเป็นพระ : ขันติธโร
อายุ : 23 การศึกษา : ปริญญาตรี สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อาชีพ : ผู้ประเมินวินาศภัย Crawford & Company

คุณนับว่าเป็นคนรุ่นใหม่คือ อายุยังน้อย มีความรู้ความสามารถมีการศึกษาตลอดจนหน้าที่การงานดี…แล้วคุณคิดอย่างไรถึงได้มาปฏิบัติธรรมอยู่ในวัดที่อยู่ป่าอยู่ดง โดยปราศจากเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ?

“…ผมต้องการสัมผัสวิถีชีวิตของพระปฏิบัติในพระพุทธศาสนา…การที่อยู่ป่าอยู่ดง มันเป็นการลดสิ่งที่เกินจำเป็นในการดำรงชีวิตลง ซึ่งโลกทุกวันนี้ มันก็พัฒนาไปเรื่อย จนเครื่องอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีต่าง ๆ มันเกินจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์…จนคนส่วนมากลืมตัว จริง ๆ แล้วมันไม่ได้มีอะไรมากเลย แค่อาหารมื้อเดียว ผ้าไม่กี่ผืน ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ก็พอจะประคับประครองชีวิตได้…เพียงแต่เราทำให้ตัวเรายุ่งยากเท่านั้น…”

เข้าวัดปฏิบัติธรรมอย่างนี้ไม่กลัวคนเขาว่า “ล้าหลังคร่ำครึ ตกกระแส หรือว่าเป็นคนมีปัญหา” หรือ ?

“…สำหรับผมเฉย ๆ นะ…ถ้าเรามีจุดยืนที่แข็งพอ รู้ว่าเราปฏิบัติไปเพื่ออะไร…และเมื่อทำจริง ๆ แล้วมันก็จะไม่หวั่นไหวต่อคำพูดของใคร…”

คุณคิดว่าคุณได้อะไรบ้างกับการมาปฏิบัติธรรมอย่างนี้น่ะ ?

“…ได้สัมผัสวิถีชีวิตพระป่ากรรมฐาน …ผมว่าพระป่ากรรมฐานสายหลวงปู่มั่น เป็นพระที่สมบูรณ์แบบที่สุดในทุกแง่ทุกมุม…ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวินัย ความอดทน ความสะอาดเรียบร้อย ความคล่องแคล่วว่องไว ความใส่ใจในรายละเอียดในทุกมิติ หรือแม้แต่วิถีชีวิตที่มักน้อย สันโดษ ห้าวหาญเด็ดเดี่ยว อย่างที่พระอาจารย์ว่าไว้…การที่ผมได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสในจุดนี้ มันเป็นการพัฒนาตัวเองในทุก ๆ ด้าน และที่สำคัญได้เห็นข้อบกพร่องของตัวเองอยู่ตลอด เพราะพระป่ากรรมฐานนั้นท่านละเอียดมาก…แต่ตัวเรานั้นยังหยาบอยู่มาก หน้าที่ของเราคือพยายามแก้ไขไปเรื่อย ๆ ฝืนความรู้สึกตัวเอง เพื่อที่นำมาพัฒนาตัวเอง…”