ข้อมูลส่วนตัว

อายุ : 38 ปี การศึกษา : ปริญญาโท วิศวกรรมเหมืองแร่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อาชีพ : วิศวกรอิสระ

คุณนับว่าเป็นคนรุ่นใหม่คือ อายุยังน้อย มีความรู้ความสามารถมีการศึกษาตลอดจนหน้าที่การงานดี…แล้วคุณคิดอย่างไร ถึงได้มาปฏิบัติธรรมอยู่ในวัดที่อยู่ป่าอยู่ดงอย่างนี้ ?

“…ในฐานะคนรุ่นใหม่ เหตุผลที่มาปฏิบัติธรรมที่วัดป่าที่ห่างไกลเช่นนี้ เพราะเชื่อว่า วัดป่าแห่งนี้ มีความแตกต่าง ไม่เหมือนวัดอื่น และน่าจะให้คำตอบ ในคำถามที่เรามีปัญหาได้ นอกจากสถานที่ที่สงบสงัด สะอาด เอื้ออำนวยต่อการอยู่อาศัยแล้ว ยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อบอุ่น มีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน และถูกต้องเมื่อได้ลองปฏิบัติตาม ซึ่งบรรยากาศดังกล่าว ไม่ได้เกิดจากสถานที่อย่างเดียว แต่เกิดจากผู้คนที่อยู่ที่นี่ด้วย นับตั้งแต่พระอาจารย์ ไปจนถึง โยมวัด ทุกคนรู้หน้าที่ของตน และทำหน้าที่ของตนชัดเจน มีอัธยาศัยที่น่ารัก เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้มาปฏิบัติใหม่ เป็นเหมือนครูที่คอยสอนผู้คนโดยไม่รู้ตัว จากการปฏิบัติข้อวัตรอย่างเคยชินของทุกคนที่นี่ ทำให้ผู้ที่มาได้ประโยชน์จากการต้องปรับตัว ดูตัวเอง รู้จักสังเกต รู้จักการเข้าสังคมด้วยการพูดคุยซักถาม รู้จักการเคารพผู้อื่น และรู้จักการอยู่ร่วมกันฉันท์มิตร…”

เข้าวัดปฏิบัติธรรมอย่างนี้ไม่กลัวคนเขาว่า “ล้าหลังคร่ำครึ ตกกระแส หรือว่าเป็นคนมีปัญหา” หรือ ?

“…แน่นอนว่าจะต้องมีคนมองเช่นนั้นแน่ แต่ตัวเราเองก็ไม่ควรกลัว และกังวลว่าจะถูกใครมองว่ามีปัญหา เพราะมันก็มีปัญหากันทุกคน ไอ้คนที่มองเราน่าจะปัญหาหนักกว่าเพื่อน เพราะได้แต่มอง เมื่อเราสร้างคุณค่าของเราเองได้ หาทางแก้ปัญหาด้วยตัวเราเองได้ ทำตัวเราเองให้บริสุทธ์ให้ดีขึ้นได้ จากการฝืนทำอะไรที่คนอื่นไม่เคยคิดจะทำได้ ในทางที่ดี ในทางที่ควร ถ้าเราทำสำเร็จ เราก็จะแสดงให้คนอื่นเห็นเอง ว่าเราทำได้ เรามีคุณค่า เราแก้ปัญหาได้ สุดท้ายเชื่อเถอะ ไอ้คนที่ว่าเรามีปัญหา มันก็ต้องซมซานมาหาเรานั่นล่ะ…”

แล้วคุณคิดว่าคุณได้อะไรบ้างกับการมาปฏิบัติธรรมอย่างนี้น่ะ ?

“…ได้อะไรบ้าง จากการปฏิบัติธรรมนี้ สิ่งที่ได้ ก็คือ ปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการลงมือทำ ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ทำในสิ่งที่ได้แต่คิดแต่ไม่เคยลงมือ ทำในสิ่งที่ต้องฝืนต้องทน ทำในสิ่งที่ไม่คุ้นเคย ทำในสิ่งที่เป็นกิจวัตร การลงมือทำนั้น ทำให้เราได้เห็น เห็นตัวตนของเรา เห็นคนรอบข้าง เห็นธรรมชาติรอบตัว เห็นกิจกรรมความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เมื่อได้เห็นได้สัมผัสของจริงด้วยตัวเอง ปัญญาที่เราไม่เคยมี เพราะเราไม่เคยลงมือทำ จึงเกิดขึ้น ซึ่ง ปัญญา นี้ สามารถนำไปแก้ปัญหาได้ ทั้งทางโลก และทางธรรม…”

“…ขอน้อมขอบพระคุณ…วัดป่าน้ำโจน ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม และญาติธรรม โยมที่วัด ที่เกี่ยวข้องทุก ๆ ท่านที่เป็นผู้มีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตปัญญาในครั้งนี้ …ขอแสงสว่างและปัญญาจงบังเกิดกับทุกท่านเช่นเดียวกันด้วยเทอญ ฯ…”

…”จิตตสังวโร”…

(บวชจำพรรษา ปี 2561)