“…คนสองคนทะเลาะกัน มีเหตุผลทั้งคู่ แล้วก็ทุกข์ทั้งคู่
ทั้งที่บอกว่าไปปฏิบัติธรรม บอกว่าไปทำบุญ
อย่าดูแต่ “ภาพลักษณ์” ไม่ดู “ผลลัพธ์”
ดูผลลัพธ์ด้วยว่ากลับมาแล้วเป็นยังไง..คุณภาพชีวิตดีขึ้นไหม
ไม่ใช่ “คุณลักษณะ” เหมือน “ผู้ปฏิบัติธรรม”
แต่ “คุณสมบัติ” ดูยังไงก็ไม่ใช่คนมีธรรม
ยังไม่มี “สมบัติเป็นกลาง” ยังอยู่กับผู้อื่นยากอยู่
เหมือนกับคนชอบเข้าวัดนั้นวัดนี้
คุณลักษณะเหมือนผู้ปฏิบัติธรรม ผู้ใฝ่ธรรม
แต่พอคุยด้วย..คุณสมบัติยังไม่มีธรรม
ไม่รักมากก็ชังมาก..เอาตัวเองเป็นตัวตั้ง..แล้วคอยจับผิดคนอื่น
“ปฏิบัติธรรม” ก็เพื่อทำลายตัวเอง
แบกตัวเองไปด้วย..แล้วเมื่อไรจะจบ
บททดสอบก็มี..เวลาถูกกระทบมา เวลาไม่พอใจจะทำใจยังไง
ไม่ใช่หาเหตุผลรองรับตัวเอง..แต่เพียงอย่างเดียว
“เข้าวัด” ก็ให้วัดความรู้สึก
ปฏิบัติธรรมคือ “คอนโทรล” ความรู้สึก
“บริหารจัดการ” ความรู้สึก
คนที่อยู่ก่อนก็กลัวจะถูกแย่งความสำคัญ
คนไปใหม่ก็อยากเข้าใกล้ครูบาอาจารย์
เพื่อความเป็นสิริมงคลเป็นกำลังใจ
ก็ไปทะเลาะกัน..อย่าเป็นอย่างนั้น
ไหนล่ะ..ความอ่อนน้อมถ่อมตน..ไหนล่ะ..ความเมตตา
ไหนล่ะ..ความเอื้อเฟื้อเกื้อกูล..ไหนล่ะ..การเอาใจเขามาใส่ใจเรา..
นี่แหล่ะ..เข้าวัด..วัดดูซิ..วัดความรู้สึกของตัวเองน่ะ…”
–บางตอนในการบรรยายธรรม —
โดยท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม