เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม วัดป่าน้ำโจน จ.พิษณุโลก เมตตานำนั่งภาวนาและแสดงธรรม ณ ห้องพิธีการ 1 วัดปทุมวนาราม ตามคำกราบนิมนต์ของคุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี…ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ..สาธุๆๆ
พระอาจารย์เมตตานำนั่งภาวนา
เป็นเวลา 3 ชั่วโมง
คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย
ประธานมูลนิธิธรรมดี
คุณอาทิตย์ ชีวณิชชากร
Interior Design
The hardware revival
คุณธเนศ ศาสตร์สิริสมบัติ
นักปั่นปลูกปั่น
นพ. วิศิษฎ์ จันทร์คุณาภาส
แพทย์เฉพาะทางด้านสูตินรีเวช รพ.ศิริราช
… การภาวนานั้นถึงมันจะยังไม่สงบลึกจนเป็นสมาธิอะไรก็ชั่งเถอะ อย่างน้อย ๆ …ก็ถือว่าได้ “เซฟสมอง” ไว้ใช้งานที่จำเป็นต่อไป…แล้วที่สำคัญการกระทำของเรานี้ก็ถือว่าได้สร้างบารมี “ทาน ศีล ภาวนา” หรือดำรงตนอยู่ใน “มรรค 8” แล้วล่ะ…
โดย ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม
“แผ่เมตตาหลังจากนั่งภาวนาเสร็จ”
สาธุ…บุญกุศลใดหากเกิดขึ้นแล้วมีขึ้นแล้วแก่ข้าพเจ้านี้ ก็ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่ในวัฏสงสารนี้ทุกผู้ทุกคน ทุกรูปทุกนาม ทุกตัวทุกตน…ขอจงเป็นผู้มีส่วนแห่งบุญนี้ด้วย…หากตกทุกข์ก็ขอให้พ้นจากทุกข์ ถ้าถึงสุขแล้วก็ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป …สาธุ
สังเวชนียสถาน
“…ไม่มีอะไรที่เราจะไปยึดมั่นถือมั่นได้หรอก..พระพุทธเจ้าจึงให้มาดูลมหายใจเข้า-ออก..ก็นี่ไงสังเวชนียสถานที่แท้จริง.. “สถานที่ปลงสังเวช”..หายใจเข้า..เดี๋ยวก็หายใจออก..เดี๋ยวก็ออกไปอดีต เดี๋ยวก็ออกไปอนาคต..เดี๋ยวก็ไปรัก เดี๋ยวก็ไปชัง..เดี๋ยวก็เจ็บแข้งเจ็บขา..เดี๋ยวก็ห่วงบ้านห่วงช่อง..ห่วงลูกห่วงหลาน ห่วงการห่วงงาน..เดี๋ยวก็หัวเราะ เดี๋ยวก็ร้องไห้ ฯลฯ ในแต่ละวัน..นี่แหล่ะวุ่นวายอยู่ที่ไหน..ไม่ใช่ความรู้สึกนี่รึ..เพราะอะไรล่ะ เพราะมันหลงไม่ใช่หรือ..นี่ไง..สถานที่ปลงสังเวช..น่าสลดสังเวชไหมล่ะ..นี่ “สังเวชนียสถานที่แท้จริง”..คือ.. “ความรู้สึก” ที่ถูก “ความหลง” ครอบงำนั่นแหล่ะ… มันถึงเป็นเหตุให้เกิด “ทุกข์”.. มาเป็นกัปเป็นกัลป์แล้ว…”
ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม
ธะนะวัฑฒะโก , ความเจริญทรัพย์
สิริวัฑฒะโก , ความเจริญสิริ
ยะสะวัฑฒะโก , ความเจริญยศ
พะละวัฑฒะโก , ความเจริญกำลัง
วัณณะวัฑฒะโก , ความเจริญวรรณะ
สุขะวัฑฒะโก , ความเจริญสุข
โหตุ สัพพะทา , จงมีแด่ท่านในกาลทั้งปวง
ทุกขะโรคะภะยา เวรา , ทุกข์โรคภัยและเวรทั้งปวง
โสกา สัตตุ จุปัททะวา , ความโศก ศัตรูและอุปัทวะทั้งหลาย
อะเนกา อันตะรายาปิ , ทั้งอันตรายทั้งหลายเป็นเอนก
วินัสสันตุ จะ เตชะสา , จงพินาศไปด้วยเดช
ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภัง , ความชนะ ความสำเร็จ ทรัพย์ ลาภ
โสตถิ ภาคะยัง สุขัง พะลัง , ความสวัสดี ความมีโชค ความสุข กำลัง
สิริ อายุ จะ วัณโณ จะ โภคัง วุฑฒี จะ ยะสะวา , โภคะ ความเจริญ และความเป็นผู้มียศ
สะตะวัสสา จะ อายู จะ , และอายุยืน 100 ปี
ชีวะสิทธี ภะวันตุ เต ฯ ,และความสำเร็จกิจในความเป็นอยู่ จงมีแก่ท่านในกาลทุกเมื่อเทอญ.
ขออนุโมทนาบุญในกุศลจิตกับทุก ๆ ท่าน ด้วยค่ะ…
ขอให้ท่านเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะคะ สาธุ…สาธุ…สาธุ