ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม วัดป่าน้ำโจน ต.พันชาลี อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ด้เมตตาไปโปรดที่ศาลจังหวัดพิษณุโลก ตามคำกราบนิมนต์ของท่านธีระโชติ ยอดไกรศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดพิษณุโล เมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๕

ศาลจังหวัดพิษณุโลก
พระอาจารย์เมตตาสนทนาธรรมยามเช้ากับ

ท่านผู้พิพากษาและญาติโยม

ท่านพรชญา ภักดีโต
ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพิษณุโลก

ท่านธีระโชติ ยอดไกรศรี
ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดพิษณุโลก

นายแพทย์ยิ่งพันธ์ุ ธาราวัชรศาสตร์
จักษุแพทย์ รพ.พุทธชินราช

คุณยายนันทนาและพี่จุ๋ม

ผู้ก่อตั้งวัดป่าน้ำโจน

“ตราชั่ง” หมายถึงการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานอย่างเที่ยงธรรม หลักฐานเป็นเช่นไร ก็ตัดสินคดีตามพยานหลักฐานที่ปรากฎ
ท่านผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่
ศาลจังหวัดพิษณุโลก
เตรียมพร้อมทำบุญตักบาตร
ท่านผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่
ศาลจังหวัดพิษณุโลก
ทำบุญตักบาตร
ท่านธีระโชติ ยอดไกรศรี
ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดพิษณุโลก

“ทำข้อวัตรถ่ายบาตรครูบาอาจารย์”

ร่วมกันกล่าวคำถวายภัตตาหาร
ท่านพรชญา ภักดีโต
ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพิษณุโลก

น้อมถวายอาหารแด่ท่านพระอาจารย์

ช่วยกันลำเลียงอาหาร
พระอาจารย์อนุโมทนาบุญ..ให้พรญาติโยม
อายุวัฑฒะโก , ความจริญอายุ
ธะนะวัฑฒะโก , ความเจริญทรัพย์
สิริวัฑฒะโก , ความเจริญสิริ
ยะสะวัฑฒะโก , ความเจริญยศ
พะละวัฑฒะโก , ความเจริญกำลัง
วัณณะวัฑฒะโก , ความเจริญวรรณะ
สุขะวัฑฒะโก , ความเจริญสุข
โหตุ สัพพะทา , จงมีแด่ท่านในกาลทั้งปวง
ทุกขะโรคะภะยา เวรา , ทุกข์โรคภัยและเวรทั้งปวง
โสกา สัตตุ จุปัททะวา , ความโศก ศัตรูและอุปัทวะทั้งหลาย
อะเนกา อันตะรายาปิ , ทั้งอันตรายทั้งหลายเป็นเอนก
วินัสสันตุ จะ เตชะสา , จงพินาศไปด้วยเดช
ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภัง , ความชนะ ความสำเร็จ ทรัพย์ ลาภ
โสตถิ ภาคะยัง สุขัง พะลัง , ความสวัสดี ความมีโชค ความสุข กำลัง
สิริ อายุ จะ วัณโณ จะ โภคัง วุฑฒี จะ ยะสะวา , โภคะ ความเจริญ และความเป็นผู้มียศ
สะตะวัสสา จะ อายู จะ , และอายุยืน 100 ปี
ชีวะสิทธี ภะวันตุ เต ฯ ,และความสำเร็จกิจในความเป็นอยู่ จงมีแก่ท่านในกาลทุกเมื่อเทอญ.

ขออนุโมทนาบุญในกุศลจิตกับทุก ๆ ท่าน ด้วยค่ะ…

พระอาจารย์เมตตาให้ “ข้าวก้นบาตร”
พระอาจารย์เมตตาสนทนาธรรม

“…พวกเรามี “อำนาจ” มีหน้าที่ให้ “คุณ” ให้ “โทษ” คนอื่นได้…ถ้าหาก “อำนาจหน้าที่” นั้น…ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ “คุณธรรม” …สังคมก็จะร่มเย็นเป็นสุข…หากแต่ว่า “อำนาจหน้าที่”…นั้นไม่มี “คุณธรรม” รองรับ…ทำทุกอย่างตามกิเลสตัญหา อุปาทานของตัวเอง…สังคมนั้นย่อมจะต้องเดือดร้อนวุ่นวายอย่างแน่นอน…แล้วเมื่อถึงที่สุด…”พวกเรา” นั่นแหละที่จะเดือดร้อนวุ่นวายจาก “การกระทำ” ของตัวเองตาม “กฎแห่งกรรม”…”

โดย ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม
ณ ศาลจังหวัดพิษณุโลก
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ท่านผู้พิพากษาขอโอกาสถ่ายรูป
ร่วมกับท่านพระอาจารย์
ท่านผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่
ศาลจังหวัดพิษณุโลก
ขอโอกาสถ่ายรูปร่วมกับท่านพระอาจารย์
พระบรมฉายาลักษณ์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
“ทรงครุยเนติบัณทิต”
ท่านผู้พิพากษากราบนิมนต์ท่านพระอาจารย์

เยี่ยมห้องทำงาน

"ภาพการไกล่เกลี่ยประวัติศาสตร์"

“ ขอให้สองท่าน หันหน้าเข้าหากัน ไม่ใช่เผชิญหน้ากันเพียงแต่ว่าจะต้องเอาชนะ แล้วใครจะชนะ ไม่มีทาง มีแต่แพ้ คือต่างคนต่างแพ้ แล้วที่แพ้ที่สุดคือประเทศชาติ ประชาชน แล้วจะมีประโยชน์อะไร ที่จะทะนงตัวว่าชนะ เวลาอยู่บนกองสิ่งปรักหักพัง..."

 

ความบางตอนจากพระราชดำรัส
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2535

 

ตราพระดุลพาห แปลความตามศัพท์ว่า เครื่องมือสำหรับชั่งหรือวัด ให้เกิดความเที่ยงธรรม ได้แก่ ตราชู คือเครื่องชั่งให้รู้หนักเบา แปลความตามนัย หมายถึง ความรับผิดชอบในการผดุงความยุติธรรมให้สถิตเสถียร สม่ำเสมอ ไม่เอนเอียงไปข้างฝ่ายใดด้วยอคติ

ที่มา : กระทรวงยุติธรรม

หลังจากนั้น...ท่านผู้พิพากษาไก้กราบนิมนต์

ท่านพระอาจารย์นั่งบนบัลลังก์ศาล

"จากอดีตเคยเป็นนักโทษ..วันนี้มีโอกาสได้นั่งบนบัลลังก์..เพราะเราเอามุมมองความคิดความเห็นของพระพุทธเจ้า ของพระอรหันต์สาวกนำร่องชีวิตเรา ..นี่ไง..ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว..ดังที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนไว้.."

ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม

ขอโอกาสถ่ายรูป

ร่วมกับท่านพระอาจารย์เป็นที่ระลึก

นายแพทย์ยิ่งพันธ์ุ ธาราวัชรศาสตร์
จักษุแพทย์ รพ.พุทธชินราช
"ขอโอกาสถ่ายรูปร่วมกับท่านพระอาจารย์"

ขออนุโมทนาบุญในกุศลจิตกับทุก ๆ ท่าน ด้วยค่ะ...
ขอให้ท่านเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะคะ สาธุ...สาธุ...สาธุ