ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม วัดป่าน้ำโจน ต.พันชาลี อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้เมตตาไปนำปฏิบัติภาวนาที่ บ้านพักอธิบดีผู้พิพากษาภาค 6 และ เมตตาโปรดที่สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 6 เมื่อวันที่ 16-17 พฤศจิกายน 2564 ตามคำกราบนิมนต์ของท่านมยุรี จามิกรานนท์ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 6
ณ บ้านพักอธิบดีผู้พิพากษาภาค 6
พระอาจารย์เมตตานำปฏิบัติภาวนา
ตั้งแต่เวลา เวลา 16.00 – 18.00 น.เป็นเวลา 2 ชั่วโมง
ท่านผู้พิพากษา ผู้ประนีประนอม และคณะทำงาน ร่วมนั่งภาวนา
หลังจากนั้น…พระอาจารย์เมตตา
นำสวดมนต์ ทำวัตรเย็น
ท่านอธิบดีผู้พิพากษา ท่านผู้พิพากษา ผู้ประนีประนอม และคณะทำงาน
…กราบสนทนาธรรมกับท่านพระอาจารย์…
“หัวโขน”
…อำนาจ…ยศฐาบรรดาศักดิ์…มันก็เหมือน “พลุ”ดอกไม้ไฟ…นั่นแหละ…ถึงมันจะส่องสว่างสวยงามขนาดไหน…จะขึ้นสูงขนาดไหน…ก็ไม่นานหรอก แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ซาลง…แล้วก็มอดดับไป…เตรียมตัวเตรียมใจไว้บ้างอย่าประมาท…อย่าลืมตัวหลงตนจนเกินไป…
…พวกเรามี “อำนาจ” มีหน้าที่ให้ “คุณ” ให้ “โทษ” คนอื่นได้…ถ้าหาก “อำนาจหน้าที่” นั้น…ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ “คุณธรรม” …สังคมก็จะร่มเย็นเป็นสุข…หากแต่ว่า “อำนาจหน้าที่”…นั้นไม่มี “คุณธรรม” รองรับ…ทำทุกอย่างตามกิเลสตัญหา อุปาทานของตัวเอง…สังคมนั้นย่อมจะต้องเดือดร้อนวุ่นวายอย่างแน่นอน…แล้วเมื่อถึงที่สุด… “พวกเรา” นั่นแหละที่จะเดือดร้อนวุ่นวายจาก “การกระทำ” ของตัวเองตาม “กฎแห่งกรรม”…
ท่านมยุรี จามิกรานนท์
อธิบดีผู้พิพากษาภาค 6
..น้อมถวายทำบุญกับท่านพระอาจารย์…
ท่านพระอาจารย์อนุโมทนาให้พร
ในโอกาสนี้…ท่านอธิบดีฯ ได้กราบขอความเมตตาท่านพระอาจารย์
ทำน้ำพระพุทธมนต์เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน
และท่านยังเมตตาปะพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้กับบ้านพักของท่านอธิบดีฯ
พระอาจารย์เมตตาบิณฑบาตที่บ้านพักอธิบดีฯ
ท่านธีระโชติ ยอดไกรศรี
ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดพิษณุโลก
เลขานุการศาลยุติธรรมประจำภาค 6
ที่ปฏิบัติต่อครูบาอาจารย์
สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 6
ที่ปฏิบัติต่อครูบาอาจารย์
ต่อจากนั้น…ร่วมกันกล่าวคำถวายภัตตาหาร
อธิบดีผู้พิพากษาภาค 6
..น้อมถวายถวายจังหันแด่ท่านพระอาจารย์…
บุคคลมาระลึกถึงอุปการะอันท่านได้ทำแก่ตนในการก่อนว่า ,ผู้นี้ได้ให้สิ่งนี้แก่เรา, ผู้นี้ได้ทำกิจนี้ของเรา, ผู้นี้เป็นญาติเป็นมิตร เป็นเพื่อนของเรา, ดังนี้.
เปตานัง ทักขิณัง ทัชชา ปุพเพ กะตะ มะนุสสะรัง ,
ก็ควรให้ทักษิณาทาน, เพื่อผู้ละโลกนี้ไปแล้ว.
นะ หิ รุณณัง วาโสโก วา ยาวัญญา ปะริเทวนา ,
การร้องไห้ก็ดี, การเศร้าโศกก็ดี หรือการร่ำไรรำพันอย่างอื่นก็ดี, บุคคลไม่ควรทำทีเดียว.
นะตัง เปตานะมัตถายะ ,
เพราะว่าการร้องได้เป็นต้นนั้น, ไม่เป็นประโยชน์แก่ญาติทั้งหลาย, ผู้ละโลกนี้ไปแล้ว.
เอวัง ติฏฐันติ ญาตะโย, ญาติทั้งหลาย, ย่อมตั้งอยู่อย่างนั้น.
อะยัญจะ โข ทักขิณา ทินนา, ก็ทักษิณาทานนี้แล, อันท่านให้แล้ว.
สังฆัมหิ สุปะติฏฐิตา, ประดิษฐานไว้ดีแล้วในสงฆ์.
ทีฆะรัตตัง หิตายัสสะ ฐานะโส อุปปะกัปปะติ ,
ย่อมสำเร็จประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้ที่ละโลกนี้ไปแล้วนั้น, ตลอดกาลนาน ตามฐานะ.
โส ญาติธัมโม จะ อะยัง นิทัสสิโต , ญาติธรรมนี้นั้น, ท่านได้แสดงให้ปรากฏแล้ว.
เปตานะ ปูชา จะกะตา อุฬารา ,
แลบูชาอันยิ่งท่านก็ได้ทำแล้ว, แก่ญาติทั้งหลาย, ผู้ละโลกนี้ไปแล้ว.
พะลัญจะ ภิกขูนะมะนุปปะทินนัง, กำลังแห่งภิกษุทั้งหลาย, ชื่อว่าท่านได้เพิ่มให้แล้วด้วย.
ตุมเหหิ ปุญญัง ปะสุตัง อะนัปปะกันติ, บุญไม่น้อย, ท่านได้ขวนขวายแล้ว, ดังนี้แล.
ได้กราบขอความเมตตาท่านพระอาจารย์
ทำน้ำพระพุทธมนต์
เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน
ในอาคารสำนักงานฯ เพื่อความเป็นศิริมงคล
ให้กับห้องทำงานของท่านอธิบดีผู้พิพากษาภาค 6
เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน
สัพพะ พุทธานุภาเวนะ ,
ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
สัพพะ ธัมมานุภาเวนะ ,
ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมทั้งปวง
สัพพะ สังฆานุภาเวนะ ,
ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ทั้งหลาย
สะทาโสตถี ภะวันตุเต ,
ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ท่านทุกเมื่อเทอญ.
* * * * * * * * * * * * * *
ขอให้ท่านเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะคะ สาธุ…สาธุ…สาธุ