ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม วัดป่าน้ำโจน จังหวัดพิษณุโลก…ได้เมตตานำนั่งสมาธิภาวนา – แสดงธรรม ณ ระเบียงรมณีย์ ตึกภูมิสิริมังคลานุสรณ์ ชั้น 14 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๗ …ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ ขอให้ท่านเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ

ท่านพระอาจารย์เมตตานำนั่งภาวนา
เป็นเวลา 1 ชั่วโมง

ผศ.นพ.ปรก เหล่าสุวรรณ์
ฝ่ายวิสัญญีวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

ผศ.พญ.อธิฏฐาน เอียสกุล
ฝ่ายวิสัญญีวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

คุณอาทิตย์ ชีวณิชชากร
Interior Design
The hardware revival

ผศ.ระวีวรรณ แก้ววิทย์
อาจารย์คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและบริหารกิจการ ม.กรุงเทพ และเจ้าของธุรกิจแบรนด์ MeMie

ผศ.เจษฎา แก้ววิทย์
สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ม.หอการค้า

พี่มีน วิศวกร

นักศึกษาปี 4
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

พี่แบงค์ พี่กิ๊ฟ…สามี ภรรยาผู้ใฝ่ธรรม

“…ร่างกายคือพื้นที่สะท้อนปัญหา
เพื่อให้จิตวิเคราะห์และแก้ไขตัวมันเอง…”

ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม

“แผ่เมตตาหลังจากนั่งภาวนาเสร็จ”
สาธุ…บุญกุศลใดหากเกิดขึ้นแล้วมีขึ้นแล้วแก่ข้าพเจ้านี้ ก็ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่ในวัฏสงสารนี้ทุกผู้ทุกคน ทุกรูปทุกนาม ทุกตัวทุกตน…ขอจงเป็นผู้มีส่วนแห่งบุญนี้ด้วย…หากตกทุกข์ก็ขอให้พ้นจากทุกข์ ถ้าถึงสุขแล้วก็ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป …สาธุ

ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม
นำญาติโยมสวดมนต์ทำวัตรเย็น เพื่อบูชาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ผศ.ระวีวรรณ แก้ววิทย์
อาจารย์คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและบริหารกิจการและเจ้าของธุรกิจแบรนด์ MeMie

ผศ.เจษฎา แก้ววิทย์
สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.หอการค้า

“ ภพ ”

“…จุด ๆเดียวโดยลำพังมันก็จะไม่มีความหมายอะไรมากมาย..สำหรับคนธรรมดาสามัญโดยทั่ว ๆไปอย่างเรา ๆท่าน ๆทั้งหลาย…แต่สำหรับท่านผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว..ท่านรู้ดีว่านี่คือจุดเริ่มต้นของความหมายของ “สมมติ” ….ยกตัวอย่างเช่น…ถ้ามีเส้นรังสีออกไปจากจุดนี้หนึ่งเส้น..ก็เรียก “เส้นตรง” แล้ว…ถ้าออกจากจุด ๆเดียวสองเส้น..ก็เรียก “มุม” แล้ว…แล้วถ้ายิ่งหลาย ๆ เส้น..ก็จะเป็นหลายมุมแล้ว..ยิ่งหลายมุมยิ่งหลายความหมาย ยิ่งหลากหลายความวุ่นวาย…ทั้งมุมแหลม มุมป้าน มุมฉาก มุมประชิด..อิรุงตุงนังวุ่นวายไปหมด…

ในแง่ของศาสนา..เปรียบจุดนั้นคือ “ภพ” (ที่เกาะเกี่ยวของ “จิต” ซึ่งหมายถึงธาตุรู้) ตราบที่ยัง “หลง” อยู่…เส้นรังสีหลายเส้นที่แผ่ออกไปจากจุดนี้ ในวิชาเรขาคณิตคือ “มุม”…ในความเห็นส่วนตัวของเราก็คือ “มุมมอง” หรือความเห็นของแต่ละคนนั่นแหละ ภาษาธรรมก็คือ “สักกายทิฏฐิ”…ต่างคนต่างมีความเห็นมุมมองของตัวเองเป็นจริงเป็นจัง มันก็เลยทำให้เราวุ่นวายอยู่กับโลกสมมติที่ซับซ้อนวุ่นวายนี้ ตามกำลังความหลงของแต่ละคน…หลงมากก็ทุกข์มาก หลงน้อยก็ทุกข์น้อย ถ้าไม่หลงเลยก็เป็น ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน..ตามพระพุทธเจ้าผู้เป็นพระศาสดาผู้นำล่องไปแล้ว…และก็พยามบอกสอนกรรมวิธีที่จะเข้าไปสู่สภาวะนี้ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์หลังจากตรัสรู้แล้ว ด้วยพระเมตตา พระกรุณา..ไม่ได้รับจ้างพูด…อย่างที่พวกเราพยายามทำกันอยู่นี้แหละ กรรมวิธีที่จะเข้าไปสู่สภาวะพ้นทุกข์นั้น…หายใจเข้า พุท….หายใจออกโธ…พุท…โธ…ๆๆๆๆ…หรือจะบริกรรม พุทโธ ๆ ๆ ๆ..แต่เพียงอย่างเดียวโดยไม่ยุ่งกับลมหายใจเข้าออกก็ได้…นี่คือกรรมวิธี “ลบเส้นรังสี” หรือ “ลบแขนของมุม” นั่นแหละ…ลบไปเรื่อย ๆ ด้วยความอดทนอดกลั้นที่จะฝ่าฟันกับอุปสรรคต่าง ๆ จากมุมมองความหลงของตัวเอง..ทั้ง..ฟุ้งซ่าน ง่วงเหงาหาวนอน ทั้งลังเลสงสัย ทั้งเป็นเหน็บเจ็บปวด ฯลฯ…สารพัดทุกข์ที่จะรุมเร้า..ถ้ายังไม่ท้อไม่ถอยสักวันหนึ่งเมื่อเราสามารถลบเส้นรังสีหรือแขนของมุม “มุมมอง” ที่หลงของตัวเองนั่นแหละ..ซึ่งลบหมดเมื่อไหร่มันก็จะเหลือเพียงจุด ๆเดียวคือ “จุดยอดมุม”…มันก็จะไม่มีความหมายอะไรในขณะนั้น..ในศาสนาก็คือ “เอกคตารมณ์ เอกคตาจิต” คือจิตเดียว อารมณ์เดียว..ไม่มีอดีต..ไม่มีอนาคต..มีแต่ “รู้” อยู่หนึ่งเดียว…พยายามสร้างปัญญาหาทางฟันฝ่าไปให้ถึง “จุด” นี้ให้ได้ก่อนเถอะ…แล้วค่อยบ่มเพาะปัญญาที่จะลบ “จุดยอดมุม” นี้ซะ..ความเป็นอิสระที่แท้จริงจึงจะบังเกิด….เอวัง !…..”

โดย ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม
ณ ระเบียงรมณีย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

ผศ.พญ.อธิฏฐาน เอียสกุล
ฝ่ายวิสัญญีวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

ร่าเริงในธรรม…อย่างมีสาระธรรม

ญาติโยมน้อมถวายสิ่งของแด่ท่านพระอาจารย์
พระอาจารย์อนุโมทนาบุญ..ให้พรญาติโยม
อัคคะโต เว ปะสันนานัง อัคคัง ธัมมัง วิชานะตัง เมื่อบุคคลรู้จักธรรมอันเลิศ เลื่อมใสแล้วโดยความเป็นของเลิศ
อัคเค พุทเธ ปะสันนานัง เลื่อมใสแล้วในพระพุทธเจ้าผู้เลิศ
ทักขิเณยเย อะนุตตะเร ซึ่งเป็นทักษิไณยบุคคลอันเยี่ยมยอด
อัคเค ธัมเม ปะสันนานัง เลื่อมใสแล้วในพระธรรมอันเลิศ
วิราคูปะสะเม สุเข ซึ่งเป็นธรรมปราศจากราคะแลสงบรำงับเป็นสุข
อัคเค สังเฆ ปะสันนานัง เลื่อมใสแล้วในพระสงฆ์ผู้เลิศ
ปุญญักเขตเต อะนุตตะเร ซึ่งเป็นบุญเขตอย่างยอด
อัคคัสมิง ทานัง ทะทะตัง ถวายทานในท่านผู้เลิศนั้น
อัคคัง ปุญญัง ปะวัฑฒะติ บุญที่เลิศก็ย่อมเจริญ
อัคคัง อายุ จะ วัณโณ จะ อายุ วรรณะ ที่เลิศ
ยะโส กิตติ สุขัง พะลัง แลยศเกียรติคุณ สุขะ พละ ที่เลิศย่อมเจริญ
อัคคัสสะ ทาตา เมธาวี อัคคะธัมมะสะมาหิโต ผู้มีปัญญาตั้งมั่นในธรรมอันเลิศแล้ว, ให้ทานแก่ท่านผู้เป็นบุญเขตอันเลิศ
เทวะภูโต มะนุสโส วา จะไปเกิดเป็นเทพดาหรือไปเกิดเป็นมนุษย์ก็ตาม
อัคคัปปัตโต ปะโมทะตีติ ย่อมถึงความเป็นผู้เลิศบันเทิงอยู่ ดังนี้แล.

สนทนาธรรมนอกรอบ…กับท่านพระอาจารย์

ขออนุโมทนาบุญในกุศลจิตกับทุก ๆ ท่าน ด้วยค่ะ…
ขอให้ท่านเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะคะ สาธุ…สาธุ…สาธุ