…ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม วัดป่าน้ำโจน อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เมตตานำนั่งภาวนาและสนทนาธรรม ณ วัดปทุมวนาราม ตามคำกราบนิมนต์ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี..เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๘ ..และในโอกาสนี้พระเทพวชิรกิตติเมธี รองเจ้าคณะภาค ๑-๒-๓ (ธรรมยุติ), ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสมนัสราชวรวิหาร ได้เมตตามาร่วมนั่งภาวนา เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ศรัทธาญาติโยมทั้งหลาย ขอน้อมกราบขอบพระคุณในความเมตตาของท่านเจ้าคุณเจ้าค่ะ…และขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยนะคะ..สาธุๆๆ

พระอาจารย์เมตตานำนั่งภาวนา
เป็นเวลา 2 ชั่วโมง
คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย
ประธานมูลนิธิธรรมดี
ผศ.พญ.อินทิพร โฆษิตานุฤทธิ์
ภาควิชาวิสัญญีวิทยา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร
แพทย์วิสัญญี โรงพยาบาลพิจิตร
… “จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิ ฯ ” …
จักษุได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา
ญาณได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา
ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา
วิชชาได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา
แสงสว่างได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา


นำญาติโยมสวดมนต์ทำวัตรเย็น เพื่อบูชาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ห้วงน้ำแห่งโอฆะ
“… “เรือ” ต้องอาศัยผืนน้ำจึงจะสามารถลอยลำอยู่ได้…แล้ว “น้ำ” ที่อยู่นอกเรือก็ไม่ได้มีปัญหากับเรือหรอก…ระวังแต่น้ำที่มันจะสาดกระเซ็นไหลเข้าสู่เรือโดยไม่หยุดหย่อนเท่านั้นแหละ ถ้าไม่รู้จักระมัดระวัง ปล่อยให้น้ำมันไหลเข้าสู่เรือเรื่อย ๆ โดยไม่มีปัญญาที่จะหาวิธีเอาน้ำออกจากเรือได้..เดี๋ยวเรือก็จะจมลงสู่ห้วงน้ำ…เปรียบเสมือนกับ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์…ที่มันอยู่ข้างนอกตามธรรมชาติของมัน มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ? กับเราหรอก…หากแต่ว่า..ถ้าเราไม่มีปัญญาที่จะรู้เท่าทันมัน มันก็จะไหลเข้าสู่… “ใจ” เราในรูปของ “อารมณ์” ซึ่งไม่ “รัก” ก็ “ชัง” นั่นแหละ ถ้า “รัก” ก็อยากได้ดิ้นรนแสวงหา..หากเกินพอดีก็ ทุกข์ระทมเศร้าหมอง…ซึ่งถ้า “ชัง” ก็อิจฉา ริษยา อาฆาตพยาบาท จองเวร…หากไม่มีปัญญาที่จะสลายออกไปได้.. “อาสวะ” ( เครื่องเศร้าหมอง )..มันก็จะท่วมใน “จิต” ใน “ใจ” ของตัวเราเองนั่นแหละ…
…เมื่อน้ำเข้าเรือ..ผู้มี “ปัญญา” ก็จะรู้จักกรรมวิธีเอาน้ำออกจากเรือ..จนกว่าเรือจะเข้าไปถึงฝั่ง แล้ว “เรา” สามารถขึ้นไปบนฝั่งได้จึงจะเป็น “อิสระ” อย่างแท้จริงจากทั้ง “เรือ” และ “น้ำ” …”
ท่านพระอาจารย์อังคาร อัคคธัมโม
ธะนะวัฑฒะโก , ความเจริญทรัพย์
สิริวัฑฒะโก , ความเจริญสิริ
ยะสะวัฑฒะโก , ความเจริญยศ
พะละวัฑฒะโก , ความเจริญกำลัง
วัณณะวัฑฒะโก , ความเจริญวรรณะ
สุขะวัฑฒะโก , ความเจริญสุข
โหตุ สัพพะทา , จงมีแด่ท่านในกาลทั้งปวง
ทุกขะโรคะภะยา เวรา , ทุกข์โรคภัยและเวรทั้งปวง
โสกา สัตตุ จุปัททะวา , ความโศก ศัตรูและอุปัทวะทั้งหลาย
อะเนกา อันตะรายาปิ , ทั้งอันตรายทั้งหลายเป็นเอนก
วินัสสันตุ จะ เตชะสา , จงพินาศไปด้วยเดช
ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภัง , ความชนะ ความสำเร็จ ทรัพย์ ลาภ
โสตถิ ภาคะยัง สุขัง พะลัง , ความสวัสดี ความมีโชค ความสุข กำลัง
สิริ อายุ จะ วัณโณ จะ โภคัง วุฑฒี จะ ยะสะวา , โภคะ ความเจริญ และความเป็นผู้มียศ
สะตะวัสสา จะ อายู จะ , และอายุยืน 100 ปี
ชีวะสิทธี ภะวันตุ เต ฯ ,และความสำเร็จกิจในความเป็นอยู่ จงมีแก่ท่านในกาลทุกเมื่อเทอญ.
ขออนุโมทนาบุญในกุศลจิตกับทุก ๆ ท่าน ด้วยค่ะ…
ขอให้ท่านเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะคะ สาธุ…สาธุ…สาธุ